การก่อสร้างรูปเหมือนหลวงปู่มั่น องค์ใหญ่ นับตั้งแต่ได้เริ่มตอกเสาเข็มในวันที่ ๑๙ พ.ย.๒๕๕๕ วันจันทร์ เวลา ๐๘.๓๙ นาที ที่มีการกำหนดแบบไว้ที่จะมีการตอกเสาเข็มทั้งหมดจำนวน ๑๙๒ ต้น โดยจะใช้เสาเข็ม ๒ ต้นเป็นฐานรองรับเสาฟุตติ้ง แต่เนื่องด้วยขนาดเสาที่ตอกนั้นมีขนาดใหญ่คือ ๔๐ ซ.ม. ซึ่งแต่ละต้นจะรับน้ำหนักได้ ๗๐ ตัน ทางช่างก่อสร้างได้พิจารณาแล้วว่าแต่ละเสานั้นใช้เพียงต้นเดียวก็รับน้ำหนักได้มาก จึงได้มีการลดจำนวนเสาเข็มลงเหลือ ๑๐๙ ต้น หากคำนวณเสาเข็มแต่ละต้นรับน้ำหนักได้ ๗๐ ตัน จะสามารถรับน้ำหนักได้ถึง ๗,๖๓๐ ตัน จึงทำให้สถานที่ที่จะสร้างนั้นหากรับน้ำหนักองค์พระและตัวอาคารต่างๆนั้นสามารถรับได้อีกมาก และสามารถนำคนขึ้นไปอยู่ในอาคารได้มากกว่า ๒๐,๐๐๐ คนเลยทีเดียว
และจำนวนเสาเข็มที่ตอกจำนวน ๑๐๙ ต้นนั้นได้ทำการตอกเสร็จสิ้น จากนั้นจะได้ทำการขุดหลุมเสาแล้วตัดเสาเข็มที่โผล่พ้นดินออกไป จากนั้นดำเนินการก่อฐานราก(ฟุตติ้ง)เทคอนกรีตปูนปอร์ตแลนด์เทเสา ทำคานคอดินและตั้งเสาอาคารแท่นรองรับองค์หลวงปู่มั่นที่อาคารฐานรองรับองค์พระจะมีความสูงจากพื้นดินที่ถมประมาณ ๑๘ เมตร แล้วจะก่อสร้างองค์พระที่สูงประมาณ ๒๐ กว่าเมตร เมื่อการก่อสร้างเสร็จสิ้นแล้วจะทำให้องค์พระมีความสูงทั้งสิ้นประมาณ ๔๐ เมตร
ซึ่งถือได้ว่าเป็นรูปเหมือนองค์หลวงปู่มั่น ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
และในวันที่ ๙ ธันวาคม ๒๕๕๕ ทางผู้จัดสร้างได้ไปทำการขออัญเชิญดิน ที่บ้านเกิดของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ที่บ้านคำบง อ.ศรีเมืองใหม่ จ.อุบลราชธานี นำมาไว้และโรยรอบๆสถานที่ตั้งองค์พระเพื่อความเป็นศิริมงคลแก่ผู้ที่จะเดินทางมาสักการะ
ดังนั้นผู้ที่ยังไม่ทราบข่าวก็ดี ทราบข่าวแล้วก็ดี ที่ยังเป็นบริวารลูกหลานหลวงปู่มั่น จากอดีตชาติ ที่ยังตกค้างอยู่ในชาติปัจจุบันที่มาเกิดเป็นมนุษย์ในชาติปัจจุบัน มีความประสงค์ที่จะร่วมสร้างรูปเหมือนของพ่อแม่ครูบาอาจารย์ให้ปรากฏดำรงอยู่คู่โลกสืบไป
|